$$มาดูกันว่าเทรนด์ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรเป็นยังไง

[www.SeoNo1.co.th]

ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า แบบครบวงจรเป็นยังไงกับอัปเดตเกี่ยวกับอนาคตของแบตเตอรี่อีวีที่เราควรมีความสนใจ



คลิ๊กอ่านรายละเอียดได้ตามนี้ >> รถยนต์ไฟฟ้า https://www.bangkokbanksme.com/en/23-9sme1-ev-car-business-trends-updated-ev-batteries

เดี๋ยวนี้ เราจะเห็นรถยนต์ไฟฟ้านานัปการรุ่นจากหลากหลายแบรนด์วิ่งสัญจรบนท้องถนนมากขึ้นซึ่งเกิดขึ้นจากแนวนโยบายเกื้อหนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล หรือที่เรียกว่า '30@30' ที่มีเป้าหมายให้รถยนต์ไฟฟ้ามีรูปร่าง 30% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งผองด้านในปี 2573

นโยบายนี้สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศไทย ที่มุ่งลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกเพื่อแก้ปัญหาสภาวะโลกร้อน การหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็เลยเป็นหนึ่งในทางออกสำคัญ เนื่องด้วยรถยนต์ไฟฟ้าไม่ปล่อยไอเสีย ทำให้ท่านภาพอากาศดียิ่งขึ้น แล้วก็ยังช่วยลดการพึ่งเชื้อเพลิงฟอสซิลอีกด้วย

นอกนั้น การเจริญเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวโยง ยกตัวอย่างเช่น การสร้างแบตเตอรี่และก็สถานีชาร์จ ซึ่งจะช่วยสร้างงานรวมทั้งขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางหนึ่ง"

สรุปความขยับเขยื้อนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย: จังหวะรวมทั้งความท้า
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยแนวนโยบายช่วยเหลือจากรัฐบาล และความพึงพอใจของผู้บริโภคที่หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากยอดขึ้นทะเบียนที่มากขึ้นโดยตลอด และราคาที่ถูกลง

สิ่งสำคัญที่เคลื่อนตลาด:

- แนวทางช่วยเหลือ: รัฐบาลมีมาตรการสนับสนุน อาทิเช่น การผ่อนผันภาษี ทำให้ราคาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าถูกลง

- ความมากมายของรุ่นรถยนต์: มีรถยนต์ไฟฟ้าให้เลือกเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากแบรนด์ดังระดับโลกแล้วก็แบรนด์จีนที่เข้ามาชิงชัย

- ราคาที่เข้าถึงได้: ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าต่ำลงโดยตลอด ทำให้คนซื้อทั่วๆไปสามารถเป็นเจ้าของได้

- ส่วนประกอบเบื้องต้น: ปริมาณสถานีชาร์จมากขึ้น ทำให้ผู้ซื้อลดความรู้สึกกังวลเรื่องระยะทางในการขับรถ


ความท้าทาย

- การแข่งขันชิงชัยสูง: มีผู้สร้างรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาในตลาดเยอะขึ้น ก่อให้เกิดการแข่งขันชิงชัยด้านราคาและเทคโนโลยี

- มาตรการเกื้อหนุน: ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการต่ออายุมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล

- โครงสร้างพื้นฐาน: แม้ว่าจะมีการพัฒนาสถานีชาร์จ แต่ว่ายังจะต้องขยายให้ครอบคลุมทั้งประเทศ

ช่องทาง:

- ตลาดยังมีความสามารถเติบโต: ด้วยปริมาณพลเมืองและก็การขยายตัวของเศรษฐกิจ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยยังได้โอกาสเติบโตอีกมาก

- ของใหม่: มีการพัฒนาสิ่งใหม่ใหม่ๆเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ตลอด ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีสมรรถนะและเทคโนโลยีที่น่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ

- ความยั่งยืน: การใช้รถยนต์ไฟฟ้าช่วยลดมลพิษแล้วก็เป็นไปตามจุดมุ่งหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ

สรุป: ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงผ่านที่น่าดึงดูด คนซื้อมีทางเลือกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งเทคโนโลยีก็ปรับปรุงไปอย่างเร็ว อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความท้าบางประการที่จำเป็นต้องปรับปรุง เพื่อให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

สิ่งที่น่าจับตามองในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

- นโยบายของรัฐบาล: การต่ออายุมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า

- การแข่งขันชิงชัยของผู้ผลิตรายใหญ่: การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆรวมทั้งการปรับราคา

- การพัฒนาส่วนประกอบเบื้องต้น: การขยายปริมาณสถานีชาร์จและก็การพัฒนาระบบชาร์จที่นำสมัย

ข้อแนะนำสำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

- ลูกค้า: ควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างรุ่นต่างๆก่อนที่จะคิดที่จะตัดสินใจซื้อ และพิจารณาถึงความเหมาะสมกับการใช้แรงงาน

- ผู้ประกอบกิจการ: ควรปรับพฤติกรรมให้ทันต่อความเคลื่อนไหวของตลาด และก็มองหาจังหวะสำหรับเพื่อการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว หนึ่งในปัจจัยหลักที่ขับตลาดนี้คือ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ ที่มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีคุณภาพสูงมากขึ้น ราคาไม่แพงลง แล้วก็ตอบโจทย์ความต้องการของคนซื้อได้มากขึ้น

แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน: ราชาแห่งตลาดแบตเตอรี่ในตอนนี้

- ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด: แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออนยังคงเป็นที่นิยมมากที่สุดในตลาด ด้วยเหตุว่ามีคุณภาพสูง มีอายุการใช้งานนาน แล้วก็ราคาแพงที่ลดน้อยลง

- ผู้ผลิตจากจีนครอบครองตลาด: บริษัทจีนหลายที่ เป็นต้นว่า CATL แล้วก็ BYD เป็นผู้นำในการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน รวมทั้งมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในโลก

ความท้าและก็จังหวะของแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน

- ราคาของลิเทียม: ราคาของลิเทียมมีความเปลี่ยนแปลงสูง ทำให้ต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่มากขึ้น

- การประลองสูง: มีผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหม่ไปสู่ตลาดเยอะขึ้นเรื่อยๆ นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการแข่งขันชิงชัยด้านราคาแล้วก็เทคโนโลยี

แนวโน้มเทคโนโลยีแบตเตอรี่ในอนาคต

- แบตเตอรี่โซลิดสเตต: เป็นเทคโนโลยีที่น่าเฝ้าดู เพราะมีความปลอดภัยสูง มีความหนาแน่นของพลังงานสูง และก็มีอายุการใช้งานเป็นเวลานานกว่าแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน

- แบตเตอรี่โซเดียม-ไอออน: เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่น่าสนใจ เหตุเพราะวัตถุดิบราคาถูก และก็มีกรรมวิธีการผลิตที่ง่ายกว่า

- นิกเกิล เมทัลไฮไดร์ด: แม้ว่าจะมีการใช้งานมานานแล้ว แต่ยังคงได้รับความพึงพอใจ เหตุเพราะมีอายุการใช้งานนาน และทนต่อลักษณะอากาศได้ดี

สิ่งที่น่าเฝ้ามอง:

- การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่รุ่นใหม่ๆ

- การแข่งขันระหว่างผู้สร้างแบตเตอรี่รายใหญ่

- หลักการช่วยเหลือของรัฐบาล

- ราคาของวัตถุดิบที่ใช้เพื่อการผลิตแบตเตอรี่




ข้อเสนอแนะ:

- ผู้ใช้: ควรศึกษาเนื้อหาสาระเกี่ยวกับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าให้รอบคอบก่อนที่จะทำการตัดสินใจซื้อ

- ผู้ประกอบธุรกิจ: ควรติดตามเทคโนโลยีแบตเตอรี่อย่างใกล้ชิด และปรับปรุงของใหม่ใหม่ๆเพื่อเพิ่มระดับความสามารถสำหรับในการชิงชัย

ตามรายงานล่าสุดจาก SNE Research พบว่าผู้ผลิตแบตเตอรี่จากจีนมีถึง 6 บริษัทที่ติดอันดับ Top 10 ของโลก โดยรวมกันมีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 60.5% ในปี 2565

บริษัทที่ได้รับตำแหน่งอันดับ 1เป็นContemporary Amperex Technology (CATL) ในตอน 11 เดือนแรกของปี 2565 CATL ได้จัดตั้งเซลล์แบตเตอรี่ไปถึง 165.7 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ซึ่งมากขึ้นถึง 101.8% จากปีที่แล้ว ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของบริษัทนี้เพิ่มจาก 32.8% ในปี 2564 เป็น 37.1% ในปี 2565

อันดับที่ 2 คือ BYD ผู

มาดูกันว่าเทรนด์ธุรกิจยานยนต์กระแสไฟฟ้าแบบครบวงจรเป็นเยี่ยงไร กับอัปเดตเกี่ยวกับอนาคตของแบตเตอรี่อีวีที่พวกเราควรสนใจ!


"ปัจจุบัน พวกเราจะเห็นรถยนต์ไฟฟ้านานัปการรุ่นจากมากมายแบรนด์วิ่งสัญจรบนท้องถนนมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งเป็นผลมาจากแนวนโยบายสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล หรือที่เรียกว่า '30@30' ที่มีเป้าหมายให้รถยนต์ไฟฟ้ามีรูปทรง 30% ของยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ทั้งผองด้านในปี 2573

แผนการนี้สอดคล้องกับจุดหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศไทย ที่มุ่งลดการปล่อยแก๊สสภาวะเรือนกระจกเพื่อแก้ไขปัญหาภาวการณ์โลกร้อน การหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าจึงเป็นเยี่ยมในทางออกสำคัญ เนื่องด้วยรถยนต์ไฟฟ้าไม่ปล่อยไอเสีย ทำให้ท่านภาพอากาศดีขึ้น และก็ยังช่วยลดการพึ่งเชื้อเพลิงฟอสซิลอีกด้วย

นอกเหนือจากนั้น การเจริญเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังทำให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยว ยกตัวอย่างเช่น การสร้างแบตเตอรี่แล้วก็สถานีชาร์จ ซึ่งจะช่วยสร้างงานและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางหนึ่ง"

สรุปเคลื่อนไหวตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย: จังหวะรวมทั้งความท้าทาย
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยกำลังเติบโตอย่างเร็ว ด้วยแนวนโยบายเกื้อหนุนจากรัฐบาล และก็ความพึงพอใจของผู้ซื้อที่หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเยอะขึ้น เห็นได้จากยอดลงทะเบียนที่มากขึ้นโดยตลอด และราคาที่ถูกลง

ปัจจัยสำคัญที่เคลื่อนตลาด:

- แนวทางสนับสนุน: รัฐบาลมีมาตรการสนับสนุน ได้แก่ การผ่อนผันภาษี ทำให้ราคาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าถูกลง

- ความมากมายของรุ่นรถ: มีรถยนต์ไฟฟ้าให้เลือกมากเพิ่มขึ้น ทั้งยังจากแบรนด์ดังสุดยอดแล้วก็แบรนด์จีนที่เข้ามาชิงชัย

- ราคาที่เข้าถึงได้: ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้บริโภคทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของได้

- โครงสร้างพื้นฐาน: ปริมาณสถานีชาร์จเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ซื้อลดความไม่สบายใจเรื่องระยะทางสำหรับในการขับขี่

ความท้าทาย:

- การแข่งขันสูง: มีผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาในตลาดมากยิ่งขึ้น กระตุ้นให้เกิดการประลองด้านราคาแล้วก็เทคโนโลยี

- มาตรการช่วยเหลือ: ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการต่ออายุมาตรการผลักดันของรัฐบาล

- โครงสร้างพื้นฐาน: แม้ว่าจะมีการพัฒนาสถานีชาร์จ แต่ยังต้องขยายให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ

จังหวะ:

- ตลาดยังมีประสิทธิภาพเติบโต: ด้วยปริมาณมวลชนรวมทั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมากมาย

- นวัตกรรม: มีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ตลอด ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีความสามารถและก็เทคโนโลยีที่น่าสนใจมากขึ้น

- ความยั่งยืนและมั่นคง: การใช้รถยนต์ไฟฟ้าช่วยลดมลพิษและเป็นไปตามจุดหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ

สรุป: ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงผ่านที่น่าดึงดูด ผู้บริโภคมีทางเลือกเยอะขึ้นเรื่อยๆ และก็เทคโนโลยีก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็แล้วแต่ ยังคงมีความท้าบางประการที่จำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไข เพื่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

สิ่งที่น่าจับตาดูในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

- แนวนโยบายของรัฐบาล: การต่ออายุมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า

- การประลองของผู้สร้างรายใหญ่: การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าแบบใหม่ๆแล้วก็การเปลี่ยนแปลงราคา

- การพัฒนาส่วนประกอบเบื้องต้น: การขยายปริมาณสถานีชาร์จและการพัฒนาระบบชาร์จที่นำสมัย

ข้อเสนอแนะสำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

- ผู้ซื้อ: ควรศึกษาข้อมูลเทียบระหว่างรุ่นต่างๆก่อนที่จะคิดที่จะตัดสินใจซื้อ และก็พิจารณาถึงความเหมาะสมกับการใช้แรงงาน

- ผู้ประกอบกิจการ: ควรปรับพฤติกรรมให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด และก็มองหาจังหวะสำหรับเพื่อการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตอย่างเร็ว หนึ่งในปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนตลาดนี้คือ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ ที่มีการปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น ราคาถูกลง แล้วก็ตอบสนองในสิ่งที่ต้องการของผู้ใช้ได้มากขึ้น

แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน: ราชาที่ตลาดแบตเตอรี่ในตอนนี้

- ครอบครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด: แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออนยังคงเป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดในตลาด ด้วยเหตุว่ามีประสิทธิภาพสูง แก่การใช้งานยาวนาน รวมทั้งมีราคาที่ลดน้อยลง

- ผู้สร้างจากจีนครอบครองตลาด: บริษัทจีนหลายแห่ง ยกตัวอย่างเช่น CATL แล้วก็ BYD เป็นผู้นำสำหรับการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน รวมทั้งมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในโลก

ความท้ารวมทั้งโอกาสของแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน

- ราคาของลิเทียม: ราคาของลิเทียมมีความเปลี่ยนแปลงสูง ทำให้เงินลงทุนการสร้างแบตเตอรี่มากขึ้น

- การประลองสูง: มีผู้สร้างแบตเตอรี่รายใหม่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้เกิดการแข่งขันด้านราคาและก็เทคโนโลยี

แนวโน้มเทคโนโลยีแบตเตอรี่ในอนาคต

- แบตเตอรี่โซลิดสเตต: เป็นเทคโนโลยีที่น่าจับตามอง เนื่องด้วยมีความปลอดภัยสูง มีความหนาแน่นของพลังงานสูง แล้วก็มีอายุการใช้แรงงานเป็นเวลายาวนานกว่าแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน

- แบตเตอรี่โซเดียม-ไอออน: เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่น่าสนใจ เนื่องจากวัตถุดิบราคาถูก และมีกรรมวิธีการผลิตที่ง่ายยิ่งกว่า

- นิกเกิล เมทัลไฮไดร์ด: แม้ว่าจะมีการใช้งานมานานแล้ว แต่ว่ายังคงได้รับความพึงพอใจ เนื่องด้วยมีอายุการใช้งานยาวนาน และก็ทนต่อสภาพอากาศได้ดี

สิ่งที่น่าจับตามอง:

- การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่รุ่นใหม่ๆ

- การประลองระหว่างผู้สร้างแบตเตอรี่รายใหญ่

- แนวนโยบายส่งเสริมของรัฐบาล

- ราคาของวัตถุดิบที่ใช้เพื่อการผลิตแบตเตอรี่

คำเสนอแนะ:

- ผู้ซื้อ: ควรศึกษาเนื้อหาสาระเกี่ยวกับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าให้ละเอียดก่อนที่จะทำการตัดสินใจซื้อ

- ผู้ประกอบการ: ควรจะติดตามเทคโนโลยีแบตเตอรี่อย่างใกล้ชิด และพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆเพื่อเพิ่มสมรรถภาพในการชิงชัย

ตามรายงานล่าสุดจาก SNE Research พบว่าผู้ผลิตแบตเตอรี่จากจีนมีถึง 6 บริษัทที่ติดอันดับ Top 10 ของโลก โดยรวมกันมีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 60.5% ในปี 2565

บริษัทที่ครองตำแหน่งชั้น 1หมายถึงContemporary Amperex Technology (CATL) ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2565 CATL ได้ติดตั้งเซลล์แบตเตอรี่ไปถึง 165.7 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ซึ่งมากขึ้นถึง 101.8% จากปีที่ผ่านมา ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทนี้เพิ่มจาก 32.8% ในปี 2564 เป็น 37.1% ในปี 2565

ชั้นที่ 2เป็นBYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแล้วก็แบตเตอรี่ มีจำนวนการตำหนิดตั้งมากขึ้น 168.3% คิดเป็น 60.6 GWh รวมทั้งส่วนแบ่งการตลาดโลกอยู่ที่ 13.6% เพิ่ม



Website: บทความ รถยนต์ไฟฟ้า https://www.bangkokbanksme.com/en/23-9sme1-ev-car-business-trends-updated-ev-batteries