มะเร็งช่องปาก เป็นโรคมะเร็งที่หลายคนอาจไม่คุ้นเคย แต่มันติดอันดับ 1 ใน 10 โรคมะเร็งที่คร่าชีวิตคนไทย และมักพบในกลุ่มมะเร็งศีรษะและลำคอ โดยเฉพาะในเพศชายที่มีอายุมากกว่า 40 ปี มะเร็งช่องปากส่วนใหญ่เป็นชนิด สะความัสเซลล์คาร์ซิโนมา (Squamous Cell Carcinoma - SCC)
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งช่องปาก
แม้จะไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด แต่มีปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสการเกิดโรค ได้แก่:
[ol]
อาการของมะเร็งช่องปาก
[ol]
แผลในปาก: ร้อนในหรือมะเร็งช่องปาก?
[ul]
หากพบลักษณะผิดปกติดังกล่าว ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอย่างละเอียด
วิธีป้องกันมะเร็งช่องปาก
[ol]
สรุป: มะเร็งช่องปากอาจไม่ใช่โรคที่พบได้บ่อย แต่เป็นโรคที่อันตราย หากเราสังเกตความผิดปกติในช่องปากได้เร็ว จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งช่องปาก
แม้จะไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด แต่มีปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสการเกิดโรค ได้แก่:
[ol]
- การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์: สารเคมีในบุหรี่และแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดเซลล์มะเร็ง
- การเคี้ยวหมากพลู: สารเจือปนในหมากพลู เช่น แอนธราโควิโนน เป็นสารก่อมะเร็ง
- แผลเรื้อรังในช่องปาก: เช่น แผลที่เกิดจากฟันแหลมคมหรือฟันปลอมที่ระคายเคือง หากไม่รักษาอาจนำไปสู่การกลายพันธุ์ของเซลล์
- การติดเชื้อไวรัส HPV: ติดต่อผ่านการใช้ปากในการมีเพศสัมพันธ์ และเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งช่องปาก
- ประวัติการเป็นมะเร็งบริเวณศีรษะและลำคอ: ผู้ป่วยที่เคยเป็นมะเร็งบริเวณดังกล่าวมีความเสี่ยงกลับมาเป็นมะเร็งช่องปาก
อาการของมะเร็งช่องปาก
[ol]
- ฝ้าสีขาวหรือแดงในช่องปาก: บริเวณกระพุ้งแก้ม ลิ้น หรือเหงือก
- แผลเรื้อรังในช่องปาก: รักษาไม่หายนานกว่า 2-3 สัปดาห์
- ตุ่มหรือก้อนในช่องปาก: ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่มีอาการเจ็บ
- ฟันโยกหรือหลุด: อาจมีก้อนเนื้องอกที่เหงือกทำให้ฟันหลุดหรือสวมฟันปลอมไม่ได้
- กลืนอาหารลำบาก: รวมถึงการเคี้ยวและกลืนที่ทำได้ยาก
- เลือดออกจากแผลในปาก: เลือดไหลอย่างผิดปกติ
- ก้อนที่ลำคอ: ต่อมน้ำเหลืองโตจากมะเร็งลุกลามโดยไม่มีอาการเจ็บปวด
แผลในปาก: ร้อนในหรือมะเร็งช่องปาก?
[ul]
- แผลร้อนใน: หายได้เองภายในไม่เกิน 1 สัปดาห์ มักแสบน้อยลงเรื่อยๆ และแผลจะแห้งไป
- มะเร็งช่องปาก: แผลสดตลอดเวลา ไม่หายภายใน 2-3 สัปดาห์ และอาจมีเลือดออกร่วมด้วย
หากพบลักษณะผิดปกติดังกล่าว ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอย่างละเอียด
วิธีป้องกันมะเร็งช่องปาก
[ol]
- เลิกสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์: ลดความเสี่ยงการเกิดเซลล์มะเร็งในช่องปาก
- ดูแลสุขภาพฟัน: รักษาฟันที่แหลมคม และเลือกฟันปลอมที่เหมาะสมเพื่อลดการระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงการเคี้ยวหมากพลู: โดยเฉพาะหมากพลูที่มีสารก่อมะเร็งเจือปน
- ฉีดวัคซีน HPV: เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่เพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง
- หมั่นตรวจช่องปาก: หากพบฝ้าขาว แผลเรื้อรัง หรือความผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
สรุป: มะเร็งช่องปากอาจไม่ใช่โรคที่พบได้บ่อย แต่เป็นโรคที่อันตราย หากเราสังเกตความผิดปกติในช่องปากได้เร็ว จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ